ลิเวอร์พูล – เชลซี (22:30 น.)
เจอกันครั้งแรกซีซั่นนี้บ้าน เชลซี เสมอกัน 1-1
“หงส์แดง” ได้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กลับมาหลังจากไม่ได้ลงเล่นในเกมแชมเปียนส์ ลีกที่ชนะ ปอร์โต้ เพราะติดโทษแบน
โจ โกเมซ ก็ฟิตพร้อมช่วยทีมหลังจากมีชื่อเป็นสำรองเมื่อกลางสัปดาห์ส่วน อดัม ลัลลาน่า ก็หายเจ็บพร้อมเป็นตัวเลือก
“สิงห์ไฮโซ” ที่ปรับทัพถึง 7 ตำแหน่งในเกมยูโรป้า ลีกที่บุกชนะ สลาเวีย ปราก เตรียมกลับมาใช้ตัวจริงนำโดย เอเดน อาซาร์ แต่ต้องรอเช็คความฟิต เอแมร์ซอน ที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมเมื่อคืนวันพฤหัสบดี
คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ไม่มีชื่อในเกมกับ สลาเวีย เพราะมีอาการล้าซึ่งกุนซือ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะส่งเจ้าหนูรายนี้ลงตัวจริงในบิ๊กแมตช์ที่แอนฟิลด์หรือไม่
เกร็ดน่าสนใจ
- เจอกัน 5 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ ลิเวอร์พูล ไม่ชนะเลย (เสมอ 3, แพ้ 2)
- เชลซี ไม่แพ้ที่แอนฟิลด์มา 8 นัดติดต่อกันรวมทุกถ้วย (ชนะ 3, เสมอ 5) ครั้งสุดท้ายที่ปราชัยคือพฤษภาคม 2012 โดนต้อน 1-4
- “หงส์แดง” เล่นที่แอนฟิลด์ในลีกไม่แพ้ทีมท็อปซิกซ์ด้วยกันมา 17 เกมซ้อน (ชนะ 9, เสมอ 8)
- ลิเวอร์พูล ไม่แพ้เกมเหย้าในลีกมา 37 นัดติดต่อกันแล้ว (ชนะ 27, เสมอ 10) สถิติสูงสุดตลอดกาลอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก
- แม้จะเสียประตูน้อยสุดในลีกซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล ยังมีสถิติพลิกจากโดนนำกลับมามีแต้มได้มากกว่าทีมใดในลีกซีซั่นนี้ด้วย (16 แต้ม)
- “สิงห์ไฮโซ” ชนะในลีกมา 3 เกมรวด
- กระนั้น 5 นัดหลังสุดที่ออกไปเยือนทีมท็อปซิกซ์ด้วยกัน เชลซี แพ้รวดโดนยิง 14 ลูก
- เชลซี คือทีมเดียวที่ยังไม่มีนักเตะโดนไล่ออกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
- เอเดน อาซาร์ มีส่วนโดยตรงกับ 28 ประตูของ เชลซี ในลีกซีซั่นนี้ (ยิง 16, แอสซิสต์ 12)
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
เบน ฟรีคิก ฟันธง : หงส์ เฉือน 2-1
lfcclub.com : หงส์ ชนะ 2-1