อดีตกองหลังคนเก่งของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล อย่าง เดยัน ลอฟเรน ที่ตอนนี้ได้ย้ายไปเล่นให้กับ ซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมดังใน รัสเซียน ได้ออกมาสารภาพว่าก่อนหน้านี้ตนเคยละเมิดฝ่าฝืน การเว้นระยะห่างทางสังคม ตอนที่รู้ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์
ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2019-20 ได้ จนทำให้พวกเขาได้แชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี แต่จากการที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังน่าเป็นห่วงทำให้ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล
และฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกกฎห้ามคนไปรวมตัวฉลองที่ แอนฟิลด์ มากเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีแฟนบอลหลายคนไปฉลองกันอย่างร่าเริงหน้า แอนฟิลด์ อยู่ดี
ลอฟเรน เผยว่า “ผมทำเรื่องที่ไม่รู้ว่าคนอื่นๆ รู้รึเปล่า คุณเป็นคนแรกเลยนะที่จะรู้เรื่องนี้ (จากปากของ ลอฟเรน) คือหลังจบเกมไปแล้วน่ะมีแฟนบอลหลายคนมาที่สนาม มันเป็นงานปาร์ตี้ขนาดใหญ่ พวกเขาบอกเราว่า -อย่าไปที่สนาม เพราะไม่อย่างนั้นคุณก็อาจจะเจอปัญหาได้ เราจะไม่สามารถทำให้พวกคุณปลอดภัยได้-“
“แต่ผมบอกกับตัวเองในตอนนั้นที่งานปาร์ตี้กำลังจะจบว่า -ฉันยังไม่อยากนอน มันยังเร็วเกินไป นี่มันเพิ่งเที่ยงคืนเอง- ดังนั้นผมเลยขับรถไปที่ แอนฟิลด์ และสัมผัสกับประสบการณ์การฉลองสักหน่อย ผมขับรถไปที่สนาม ผมอัพคลิปเอาไว้ด้วย ผมใส่หน้ากากเอาไว้เหมือนกัน
และให้ตายเถอะ ตอนนั้นมันมีคนหลายหมื่นคนมาฉลองกันอย่างร่าเริง และผมก็อยากจะสัมผัสกับความรู้สึกนี้ด้วย เพราะเราไม่ได้มีบรรยากาศฉลองที่ดีเท่าไหร่ในสนามจากการที่ตอนนั้นมันห้ามแฟนบอลเข้าไปในสนาม”
“ผมจำเป็นต้องได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนั้น และผมก็ดีใจที่ทำอย่างนั้นลงไป มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ที่จริงมันอาจจะมี 3 คนที่จำผมได้ล่ะมั้ง เพราะมีบางช่วงที่ผมดึงหน้ากากลงมาเพื่อดูโทรศัพท์ของผม ในช่วงนี้มันอาจจะมี 4 คนที่เห็นหน้าผม แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วล่ะ
ตอนนั้นผมไปที่นั่นคนเดียว ไม่มีนักเตะคนอื่นๆ ของทีมไปฉลองที่สนามเหมือนผมหรอก ตอนนั้นผมบอกกับ อาเดรียน ว่าจะไปฉลองที่สนาม ซึ่งเขาก็บอกว่า -ไม่มีทาง นายไม่ทำอย่างนั้นหรอก- แต่แล้วผมก็ไปที่สนามพร้อมกับส่งคลิปบางคลิปไปหาเขา มันทำให้เขาตกใจสุดๆ”
Tags : รัสเซียน, ลิเวอร์พูล, เดยัน ลอฟเรน, โควิด-19