เอาเกมมาวัดกันซะแล้ว เดลี่ สตาร์ วัดความสามารถ ฮาแลนด์ กับ นูนเญซ

29/06/2022 chikky 165 views
เอาเกมมาวัดกันซะแล้ว เดลี่ สตาร์ วัดความสามารถ ฮาแลนด์ กับ นูนเญซ
เอาเกมมาวัดกันซะแล้ว เดลี่ สตาร์ วัดความสามารถ ฮาแลนด์ กับ นูนเญซ

เดลี่ สตาร์ ตัดสินใจนำเอาเกม Football Manager 2022 มาเป็นบรรทัดฐานเลียนแบบการฟาดลำแข้งในฤดูกาลหน้าแบบละเอียดมากตลอดทั้งฤดูกาลเพื่อเช็คมองว่าระหว่าง ฮาแลนด์ กับ นูนเญซ ที่ย้ายมาสร้างสีสันใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า คนใดจะประสบผลสำเร็จมากยิ่งกว่ากัน

ต่อการเลียนแบบสถานะการณ์ด้วยแนวทางดังที่กล่าวถึงมาแล้วเห็นผลออกมาว่าศูนย์หน้ากลุ่มชาตินอรเวย์สามารถข่มแผงหน้ากลุ่มชาติอุรุกวัยได้มิดเนื่องด้วยเขาทำคะแนนให้ เรือใบสีฟ้า ได้มากกว่าที่อดีตกาลสตาร์ทีม เบนฟิก้า ทดแทน ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลแรกโดยพ่อค้าหน้าแข้งภาษาละตินสอยตาข่ายได้น้อยกว่า โม ซาลาห์ ศูนย์หน้าคนสำคัญของ เร้ด แมชีน ด้วยแม้ว่าจะถูกดึงมาด้วยค่าตอบแทนที่เป็นสถิติสูงสุดของชมรม

แล้วก็ที่สำคัญ ฮาแลนด์ จะครอบครองรางวัลรองเท้าทองไปครอบครองในทันทีในฤดูกาลแรกของเขากับลีกเมืองผู้ดีจากผลงาน 23 ประตูซึ่งศูนย์หน้าร่างยักษ์วัย 21 ปีจะได้ลงเล่นในลีกอังกฤษแล้วก็สิ้่้น 33 นัดหมาย แล้วก็เมื่อรวมทุกรายการเขาจะตะบันได้ 28 ประตูกับ 3 แอสซิสต์จาก 47 นัดหมาย

ด้าน นูนเญซ จะสอยตาข่ายได้ 16 ประตู รวมทั้ง 7 แอสซิสต์จาก 48 นัดหมาย แบ่งเป็นเฉพาะใน พรีเมียร์ลีก หัวหอกวัย 23 ปีจะลูบคลำเป้าได้ 10 ประตูกับ 5 แอสซิสต์จากการได้ลงสู่สนาม 32 นัดหมาย

แค่นี้ไม่พอ การเลียนแบบเรื่องราวด้วยเกมคอมพิวเตอร์สำเร็จลัพธ์ออกมาอย่างน่าเซอร์ไพรส์อีกว่ากลุ่ม ผีแดง ของ เอริค เทน ฮาก จะเข้าป้ายในชั้นรองแชมป์โดยมีแต้มเหนือ หงส์แดง ที่ตกไปรั้งชั้นสามสองแต้ม (90-88) ระหว่างที่ แมนฯ ซิตี้ จะคุ้มครองแชมป์ได้อีกอย่างเดิมจากการเก็บได้ 95 แต้ม เป็นการครอบครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งที่ห้าของชมรมในหกปีข้างหลัง

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลหน้า พบร์เก้น คล็อปป์ จะพาทีมได้แชมป์สองรายการอีกคราวอีกทั้งถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งที่ปรึกษาชาวเยอรมันจะได้ชิงแชมป์กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า รวมทั้งเกมจะจบสิ้นลงด้วยสกอร์ 1-1 โดย โรดรี้ กระแทกให้ แมนฯ ซิตี้ ออกนำในนาทีที่ 36 ก่อนโดน นูนเญซ ซัดตีเสมอจากลูกโทษก่อนจบครึ่งแรกไม่นานกระทั่งทำให้ควรมีการยืดเวลาพิเศษก่อนดวลลูกโทษตัดสิน

สำหรับตอนการยิงลูกโทษวินิจฉัย หงส์แดง เป็นข้างกำชัย 4-3 โดย ซาลาห์ , นูนเญซ รวมทั้ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ปฏิบัติหน้าที่ไม่พลาด ไม่ถูกกับ แมนฯ ซิตี้ ที่ ฟิล โฟเด้น กับ วัวล หาเรื่องเมอร์ ยิงพลาด ก่อนที่จะ ฟาบินโญ่ จะซัดไปโดน เอแดร์ชอน เซฟได้ แม้กระนั้น อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน กดตุงตาข่ายเปลี่ยนเป็นวีรบุรุษพา ลิเวอร์พูล ครอบครองถ้วยหูใหญ่เป็นยุคที่เจ็ด

ยิ่งกว่านั้น เร้ด แมชีน ยังได้แชมป์ เอฟเอคัพ ราวกับฤดูกาลก่อนด้วยเหมือนกันโดยพวกเขาเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้ในรอบตัดเชือก 1-0 จากการฆ่าลูกโทษของ ซาล่าห์ ก่อนจบครึ่งแรกไม่นาน รวมทั้งมี นูนเญซ กดประตูโทนของเกมพาทีมเชือดเอาชนะ เซาธ์หมูแฮมป์ตัน ได้ 1-0 ในแม็ตช์ชิงดำ

สำหรับถ้วย ค้างราบาวคัพ ที่ หงส์แดง เป็นเจ้าของเมื่อฤดูกาลก่อน พวกเขาไปได้ไกลกว่า แมนฯ ซิตี้ หนึ่งรอบก่อนไม่เข้ารอบสี่จากการเช็ดก ฮาร์วีย์ บาร์นส์ สอยตาข่ายในนาทีที่ 71 พา เดอะ ฟ็อกซ์ ได้เฮด้วยสกอร์ 1-0

Tags : , , ,
แสดงความคิดเห็น